นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า การปฏิรูปภาษีมีความสำคัญ เนื่องจากขณะนี้ รายได้น้อยกว่ารายจ่ายอยู่มาก ทำให้การจัดทำงบประมาณมีปัญหา มีเงินไม่พียงพอต่อการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้เพิ่ม จากโครงการประชานิยมของรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น โครงการรับจำนำข้าว มีหนี้อยู่กว่า 500,000 ล้านบาท หากขายข้าวได้น้อยก็มีหนี้มากขึ้น ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 ปีถึงจะใช้หนี้ทั้งหมด ปัจจุบันสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17-18% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว 20-30%
“การปฏิรูปภาษีนั้น มีวัตถุประสงค์เพิ่มรายได้ เพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ ที่ผ่านมาได้ลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลืออัตราสูงสุด 35% และในอนาคตจะพิจารณาลดลงอีก ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% ในปลายปีงบประมาณ 58 จะปรับเพิ่ม รวมถึงการหาวิธีป้องกันการการหลีกเลี่ยงเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย”
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังพบทุจริตกรณีการนำเข้าเหล็กของกรมศุลกากร ซึ่งได้เข้าหารือกับกรมศุลกากรแล้ว และได้สั่งทั้ง 3 กรมภาษีทั้งกรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร ให้แก้ไขกฎระเบียบการวัดประเมินผลงาน (เคพีไอ) เพื่อให้มีการแก้ปัญหาการเก็บภาษีไม่ให้เกิดการทุจริตอีกต่อไป