ทูตพาณิชย์รัสเซียแนะผู้ประกอบการไทยเร่งบุกตลาดแดนหมีขาว หลังความต้องการด้านอาหารแปรรูป ผักผลไม้ โรงแรม สปา ร้านอาหาร พุ่งสูงหลังสหรัฐฯ-อียูคว่ำบาตร เดือนพ.ย.เตรียมนำผู้นำเข้าอาหารคณะที่ 2 เจรจาการค้าไทย หลังครั้งแรกประสบความสำเร็จ 3 บริษัทสั่งซื้อไก่สดแล้ว2พันตันต่อเดือน
นางกัลยาณี ศิริกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สคร.มอสโกได้นำ3 บริษัทจากรัสเซียเยือนไทย ประกอบด้วย บริษัท Snow World (กรุงมอสโก) เป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารแบรนด์ชั้นนำจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ,บริษัท Porechie Meat Processing Plant (เมืองคาลินินแกรด Kaliningrad)บริษัทผู้ผลิตสินค้าเนื้อสัตว์ที่มีเครือข่ายเกี่ยวกับการผลิต การนำเข้า และจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ ได้แก่ ไก่งวง,ไก่สด ,เป็ดสด และบริษัท Lostoros (เมืองวลาดิวอสต๊อก)ผู้นำเข้าและผู้จัดส่งสินค้าไก่แช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป และผลิตไก่เพื่อวางจำหน่ายในร้านค้าย่อยทั่วไป มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากเอกชนในรัสเซีย
ล่าสุดทางรัสเซียได้มีคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)สินค้าไก่สดแช่แข็งจากไทยแล้ว2 พันตันต่อเดือน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองราคาอยู่ และในเดือนพฤศจิกายน สคร.จะเชิญเอกชนผู้นำเข้าสินค้าประเภท อาหารพร้อมรับประทาน ผลไม้ กล้วยไม้ มาเจรจาธุรกิจอีก 3 บริษัท ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความต้องการสินค้าประเภทไก่จากไทยอีกประมาณ 3 พันตันต่อเดือน ซึ่งผลสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นหลังรัสเซียถูกสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป(อียู)คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในกรณียูเครน
"ความต้องการสินค้าไทยของรัสเซียยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก รวมไปถึงเนื้อสุกร ส่วนข้าวนั้นรัสเซียมีการสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 1 หมื่นตันต่อปี ปัจจุบันเพิ่มเป็น3หมื่นตันต่อปี นับว่าเป็นทิศทางที่ดี"
สำหรับแนวโน้มตลาดรัสเซียในปี 2558 มองว่าจะมีการเจรจาการค้ากันมากขึ้น แม้ว่ารัสเซียจะมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่คาดว่าน่าจะมีความผ่อนปรนลงบ้าง ดังนั้นความต้องการสินค้าจากไทยเพื่อส่งออกไปยังยูเครน และในรัสเซียเองน่าจะมากขึ้น โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง ของตกแต่งบ้าน ของใช้เด็ก เสื้อผ้าเด็กอ่อน อาหารสำหรับเด็กอ่อน เป็นต้น
ส่วนธุรกิจที่อยากแนะนำให้ผู้ประกอบการของไทยเข้าไปลงทุนในรัสเซีย คือโรงแรม เพราะแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในรัสเซียหลายล้านคน ดังนั้นธุรกิจโรงแรม 3 ดาว 4 ดาวจึงเป็นที่ต้องการและยังขาดแคลน รวมถึงสปา และร้านอาหาร เป็นต้น แต่ทั้งนี้ควรเข้าไปในลักษณะของการร่วมทุนมากกว่าเข้าไปแบบเดี่ยวๆ
นางกัลยาณี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่เป็นโอกาสในตลาดรัสเซีย และCIS อีกหลายธุรกิจเช่น กลุ่มอาหาร ประเภท อาหารแช่เย็น แช่แข็ง อาหารกระป๋อง ผักผลไม้สด อัญมณี เครื่องประดับเงิน พลอย เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้การส่งออกของไทยไปรัสเซียและ CIS ในปี 2557 ตั้งเป้าขยายตัวที่ 5% และปี 2558 ขยายตัวที่ 10% โดยจากนี้จะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าและบริการของไทย การใช้ประโยชน์จากนโยบายมุ่งเอเชียของรัสเซีย ซึ่งจะผลักดันให้เกิดเมืองพี่เมืองน้อง เช่น กรุงเทพฯ-มอสโก ชลบุรี/จันทบุรี-นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวมทั้งการส่งเสริมให้ธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนและซื้อกิจการในรัสเซีย
อนึ่งการค้าระหว่างไทย-รัสเซียในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 มีมูลค่า 1.11 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15% ในจำนวนนี้ไทยส่งออกมูลค่า 2.64 หมื่นล้านบาท ขยายตัว12% และนำเข้า 8.47 หมื่นล้านบาท(สัดส่วนเกือบ 70% เป็นการนำเข้าน้ำมันดิบ) ไทยขาดดุลการค้า 5.83 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,995 วันที่ 26 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557